จำนวนการดูหน้าเว็บรวม

วันเสาร์ที่ 14 พฤษภาคม พ.ศ. 2554

กำหนดอายุความ

หมวด 2 กำหนดอายุความ
    มาตรา 193/30 อายุความนั้น ถ้าประมวลกฎหมายนี้หรือกฎหมายอื่นมิได้บัญญัติไว้
โดยเฉพาะ ให้มีกำหนดสิบปี    มาตรา 193/31 สิทธิเรียกร้องของรัฐที่จะเรียกเอาค่าภาษีอากรให้มีกำหนดอายุความ
สิบปี ส่วนสิทธิเรียกร้องของรัฐที่จะเรียกเอาหนี้อย่างอื่นให้บังคับตามบทบัญญัติใน
ลักษณะนี้ 
    มาตรา 193/32 สิทธิเรียกร้องที่เกิดขึ้นโดยคำพิพากษาของศาลที่ถึงที่สุดหรือโดย
สัญญาประนีประนอมยอมความ ให้มีกำหนดอายุความสิบปี ทั้งนี้ไม่ว่าสิทธิเรียกร้อง
เดิมจะมีกำหนดอายุความเท่าใด 
    มาตรา 193/33 สิทธิเรียกร้องดังต่อไปนี้ให้มีกำหนดอายุความห้าปี
    (1) ดอกเบี้ยค้างชำระ
    (2) เงินที่ต้องชำระเพื่อผ่อนทุนคืนเป็นงวด ๆ
    (3) ค่าเช่าทรัพย์สินค้าชำระ เว้นแต่ค่าเช่าสังหาริมทรัพย์ตามมาตรา 193/34 (6)
    (4) เงินค้างจ่ายคือ เงินเดือน เงินปี เงินบำนาญ ค่าอุปการะเลี้ยงดูและเงินอื่น ๆ
ในลักษณะทำนองเดียวกับที่มีการกำหนดจ่ายเป็นระยะเวลา
    (5) สิทธิเรียกร้องตามมาตรา 193/34 (1)(2) และ (5) ที่ไม่อยู่ในบังคับอายุความสองปี 
    มาตรา 193/34 สิทธิเรียกร้องดังต่อไปนี้ ให้มีกำหนดอายุความสองปี
    (1) ผู้ประกอบการค้าหรืออุตสาหกรรม ผู้ประกอบหัตถกรรม ผู้ประกอบศิลป
อุตสาหกรรมหรือช่างฝีมือ เรียกเอาค่าของที่ได้ส่งมอบค่าการงานที่ได้ทำ หรือค่าดูแล
กิจการของผู้อื่น รวมทั้งเงินที่ได้ออกทดรองไป เว้นแต่เป็นการที่ได้ทำเพื่อกิจการของ
ฝ่ายลูกหนี้นั้นเอง
    (2) ผู้ประกอบเกษตรกรรมหรือการป่าไม้ เรียกเอาค่าของที่ได้ส่งมอบอันเป็นผลิตผล
ทางเกษตรหรือป่าไม้ เฉพาะที่ใช้สอยในบ้านเรือนของฝ่ายลูกหนี้นั้นเอง
    (3) ผู้ขนส่งคนโดยสารหรือสิ่งของหรือผู้รับส่งข่าวสาร   เรียกเอาค่าโดยสาร ค่าระวาง
ค่าเช่า ค่าธรรมเนียม รวมทั้งเงินที่ได้ออกทดรองไป
    (4) ผู้ประกอบธุรกิจโรงแรมหรือหอพัก ผู้ประกอบธุรกิจในการจำหน่ายอาหารและ
เครื่องดื่ม หรือผู้ประกอบธุรกิจสถานบริการตามกฎหมายว่าด้วยสถานบริการเรียก
เอาค่าที่พัก อาหารหรือเครื่องดื่มค่าบริการหรือค่าการงานที่ได้ทำให้แก่ผู้มาพักหรือใช้
บริการ รวมทั้งเงินที่ได้ออกทดรองไป
    (5) ผู้ขายสลากกินแบ่ง สลากกินรวบหรือสลากที่คล้ายคลึงกัน เรียกเอาค่าขายสลาก
เว้นแต่เป็นการขายเพื่อการขายต่อ
    (6) ผู้ประกอบธุรกิจในการให้เช่าสังหาริมทรัพย์ เรียกเอาค่าเช่า
    (7) บุคคลซึ่งมิได้เข้าอยู่ในประเภทที่ระบุไว้ใน (1) แต่เป็นผู้ประกอบธุรกิจในการดูแล
กิจการของผู้อื่นหรือรับทำงานการต่าง ๆ เรียกเอาสินจ้างอันจะพึงได้รับในการนั้น รวม
ทั้งเงินที่ได้ออกทดรองไป
    (8) ลูกจ้างซึ่งรับใช้การงานส่วนบุคคล   เรียกเอาค่าจ้างหรือสินจ้างอย่างอื่นเพื่อ
การงานที่ทำ รวมทั้งเงินที่ได้ออกทดรองไป หรือนายจ้างเรียกเอาคืนซึ่งเงินเช่นว่านั้น
ที่ตนได้จ่ายล่วงหน้าไป
    (9) ลูกจ้างไม่ว่าจะเป็นลูกจ้างประจำ ลูกจ้างชั่วคราว หรือลูกจ้างรายวัน รวมทั้ง
ผู้ฝึกหัดงาน เรียกเอาค้าจ้างหรือสินจ้างอย่างอื่น   รวมทั้งเงินที่ได้ออกทดรองไป หรือ
นายจ้างเรียกเอาคืนซึ่งเงินเช่นว่านั้นที่ตนได้จ่ายล่วงหน้าไป
    (10) ครูสอนผู้ฝึกหัดงาน เรียกเอาค่าฝึกสอนและค่าใช้จ่ายอย่างอื่นตามที่ได้ตกลง
กันไว้ รวมทั้งเงินที่ได้ออกทดรองไป
    (11) เจ้าของสถานศึกษาหรือสถานพยาบาล   เรียกเอาค่าธรรมเนียมการเรียนและ
ค่าธรรมเนียมอื่น ๆ หรือค่ารักษาพยาบาลและค่าใช้จ่ายอย่างอื่นรวมทั้งเงินที่ได้ออก
ทดรองไป
    (12) ผู้รับคนไว้เพื่อการบำรุงเลี้ยงดูหรือฝึกสอน เรียกเอาค่าการงานที่ทำให้ รวมทั้ง
เงินที่ได้ออกทดรองไป
    (13) ผู้รับเลี้ยงหรือฝึกสอนสัตว์ เรียกเอาค่าการงานที่ทำให้   รวมทั้งเงินที่ได้ออก
ทดรองไป
    (14) ครูหรืออาจารย์ เรียกเอาค่าสอน
    (15) ผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรม ทันตกรรม การพยาบาล การผดุงครรภ์ ผู้
ประกอบการบำบัดโรคสัตว์หรือผู้ประกอบโรคศิลปะสาขาอื่น เรียกเอาค่าการงานที่ทำ
ให้รวมทั้งเงินที่ได้ออกทดรองไป
    (16) ทนายความหรือผู้ประกอบวิชาชีพทางกฎหมาย รวมทั้งพยานผู้เชี่ยวชาญ
เรียกเอาค่าการงานที่ทำให้ รวมทั้งเงินที่ได้ออกทดรองไป หรือคู่ความเรียกเอาคืนซึ่ง
เงินเช่นว่านั้นที่ตนได้จ่ายล่วงหน้าไป
    (17) ผู้ประกอบวิชาชีพวิศวกรรม สถาปัตยกรรม ผู้สอบบัญชี   หรือผู้ประกอบ
วิชาชีพอิสระอื่น เรียกเอาค่าการงานที่ทำให้   รวมทั้งเงินที่ได้ออกทดรองไป หรือผู้ว่า
จ้างให้ประกอบการงานดังกล่าวเรียกเอาคืนซึ่งเงินเช่นว่านั้นที่ตนได้จ่ายล่วงหน้าไป 
    มาตรา 193/35 ภายใต้บังคับมาตรา 193/27 สิทธิเรียกร้องที่เกิดขึ้นจากการที่ลูกหนี้
รับสภาพความรับผิดโดยมีหลักฐานเป็นหนังสือหรือโดยการให้ประกันตามมาตรา 193/28
วรรคสอง ให้มีกำหนดอายุความสองปีนับแต่วันที่ได้รับสภาพความรับผิดหรือให้ประกัน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

คลังบทความของบล็อก